วันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2554

กษัตริย์ผู้สร้างเวียงใหม่


พญาเม็งรายเป็นโอรสของพญา ลาวเม็ง และนางเทพคำข่ายและเป็นกษัตริย์องค์ที่ 25 แห่งราชวงค์ ลาวได้สร้างเมืองเชียงราย แล้วเสด็จมาตีเมืองหริภุญไชยในสมัยของพญา ยีบา ประทับเมืองลพุน หรือหริภุญไชยอยู่ราว 2 ปีก็เสด็จมาประทับที่เมือง แซว้ และย้ายมาประทับที่เวียงกุมกาม ที่แห่งนี้เป็นเมืองที่มีน้ำหลากและเกิดนำท่วมในฤดูฝน เมื่อพญาเม็งรายได้เสด็จมาล่าสัตว์ในบริเวณเชิงดอบอ้อยช้างหรือดอยสุเทพก็ทรงพบบริเวณที่เป็นชัยภูมิอันดีมี ศุภนิมิตรอันเป็นมงคลจึงทรงเลือกบริเวณนั้นเป็นสถานที่สร้างเมืองใหม่ โดยได้เชิญพระสหายอีก 2 พระองค์มาเพื่อเลือกชัยภูมิในการสร้างเมือง เมื่อพระร่วง และ พญางำเมืองได้เสด็จมาก็ได้นำการวางผังเมืองแบบ สี่เหลี่ยมและการขุดคูเมืองจากเมืองสุโขทัย (ที่ได้รับอิทธิพลของ ขอม) พญาเม็งรายจึงโปรดให้สร้างเวียงใหม่ที่มีรูปแบบผังเมืองเป็นรูป สี่เหลี่ยมที่เกือบจะเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัส โดยมีความกว้าง 900 วา ยาว 1,000 วา เมื่อแล้วเสร็จ จึงสรงนำ มุรธาภิเษก พญาเม็งรายครองราชสมบัติ และ ขนานนามเมืองแห่งนี้ว่า "นพบุรี ศรีนครพิงค์ เชียงใหม่"
                  พระบรมราชานุสรณ์สามกษัตริย์ ตั้งอยู่หน้าศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ออกแบบและทำการ ปั้นหล่อโดยคุณไข่มุกด์ ชูโต  ใช้เวลา 10 เดือนในการปั้นและหล่อพระบรมรูป(มีเรื่องเล่ากันว่า คุณไข่มุก จนด้วยความคิดว่าจะปั้นพระพักตร์ พญาเม็งรายแบบไหน จึงจะเหมือนคนในยุคนั้นมากที่สุด จึงไปดูรูป เทพพนม ที่วัด เจ็ดยอดเลยมาเป็นพญาเม็งรายที่ประทับยืนโอบพระสหาย 2 พระองค์ไว้) ประกอบพิธีอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์ สามกษัตริย์ จากกรุงเทพมหานครขึ้นประดิษฐานบนแท่นพระบรม ราชานุสาวรีย์ ในวันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2526 เวลา 11.49 น. พระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์ คือ พญามังราย พญาร่วง และพญางำเมือง ซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทย ที่พระมหากษัตริย์สาม พระองค์มาทรงร่วมกันวางแผนการสร้างเมืองเชียงใหม่ ซึ่งปรากฏคำจารึกฐาน พระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์ กล่าวคือพญามังรายประสูติ เมื่อปีกุน พ.ศ. 1782 พระองค์ทรงครองเมืองเงินยางเชียงแสนแทนพญาลาวเม็ง พระราชบิดา เมื่อ พ.ศ. 1802 ทรงพระปรีชาสามารถกล้าหาญเป็นเยี่ยมสามารถ รวบรวมแคว้นและเมืองต่างๆ เข้าเป็นอาณาจักรล้านนาไทย และได้ทรงตรากฏหมาย "มังรายศาสตร์" ขึ้นเป็นหลักในการปกครองบ้านเมือง พระองค์ทรงเป็นปฐมกษัตริย์ ราชวงศ์มังราย เมื่อปี พ.ศ. 1839 (มีพระชนมายุ ราว 59-60 พรรษา)โดยมีพระราชวงศ์สืบ ต่อกันมาอีก 17 พระองค์ พญามังรายสิ้นพระชนม์เมื่อปี พ.ศ. 1860 สิริพระชนมายุได้ 79 ชันษา ( ทรงถูก อสนีบาตบริเวณ สี่แยกกลางเวียง แต่ไม่ใช่ที่ๆระบุไว้ในปัจจุบัน แต่อยู่เยื้องมาที่หลังโชว์รูมรถยนต์ยี่ห้อดัง)

1 ความคิดเห็น:

  1. ขอข้อมูลเยอะๆเลยนะคะ รับรองภาอ่านชัวร์ ขอบคุณมากนะคะสำหรับข้อมูลดีๆค่ะ

    ตอบลบ